ปัจจุบันผู้คนทั่วโลกเรียกร้องให้เลิกใช้ใยหิน ดังนั้นจึงไม่ควรขัดขืน รวมทั้งบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิก็เรียกร้องให้เลิกใช้ด้วยเช่นกัน
บุคคลกลุ่มนี้เป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์อันสั้น วัตถุประสงค์ย่อมสั้นตาม เหตุผลที่ยกมาอ้างก็สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของตน จะอ้างว่าตนเป็นตัวแทนของบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิและองค์กร/สถาบันระดับสากลไม่ได้ เหตุใดจึงไม่หยิบยกสิ่งที่บรรดาผู้ทรงคุณวุฒิได้เห็นพ้องต้องกันในการประชุมที่จัดโดยองค์กรระดับสากล อาทิ WHO/ILO/EPA ฯลฯ ว่าสนับสนุนการใช้ใยหินโดยมีการควบคุมขึ้นมาอ้าง เหนือสิ่งอื่นใดทั้งปวง องค์กรระดับสากลเหล่านี้มีความเชี่ยวชาญและความน่าเชื่อถือสูงยิ่งกว่าผู้ที่เรียกร้องซึ่งมาจากแหล่งนานา ไม่มีผู้รู้จัก
หลายประเทศในทวีปยุโรปมีมาตรการอนุญาตให้นำเข้าได้เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมใยหิน ดังนั้นโรงงานต่างๆ จึงได้ทำการพัฒนากระบวนการกรรมวิธีผลิตที่ใช้เส้นใยทดแทนขึ้น
เกิดอันตรายต่อสุขภาพน้อยกว่าใยหิน แต่ถ้าหากประเทศในยุโรปยินยอมใช้ผลิตภัณฑ์ที่ราคาแพงกว่าแต่ความแข็งแรงทนทานน้อยกว่าและไม่มีการควบคุมย่อมเป็นสิทธิที่จะเลือกกระทำได้ คำถามคือเหตุใดจะให้ประเทศอื่นๆ ต้องปฏิบัติตามด้วย? เท่าที่ปรากฏ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช้ใยหินจะจำหน่ายในประเทศชิลี สหราชอาณาจักร อิตาลี และฝรั่งเศส ทำให้ใยหินเป็นสารต้องห้าม ผลิตภัณฑ์ทดแทนจึงฉวยโอกาสเข้ามาแทนที่ อย่างไรก็ดี เมื่อใช้ไปก็จะพบปัญหาเช่นที่เป็นทุกวันนี้ อนึ่ง เส้นใยทดแทน อาทิ เซลลูไลท์ เส้นใยอะรามิด เส้นใยเซรามิกส์ ฯลฯ ถ้าเข้าไปอยู่ที่เนื้อเยื่อปอดจะหลุดออกยากเป็นอันตรายมากกว่าใยหิน การห้ามใช้ใยหินโดยอ้างอันตรายต่อคนงาน และหันไปใช้เส้นใยอื่นที่ไม่มีข้อมูลควบคุมอาจเป็นอันตรายมากกว่า แทนที่ได้ผลตามที่มุ่งหวัง กลับจะทำให้ภาวการณ์เลวร้ายยิ่งกว่า
Please follow and like us:
