นับแต่ทศวรรษ1940 และอีก2-3 ทศวรรษต่อมามนุษย์เราได้นำเอาใยหินทุกชนิดมาใช้อย่างมากมายมหาศาลโดยไม่ระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดแก่สุขภาพส่งผลให้มีจำนวนคนงานนับล้านที่ได้รับฝุ่นใยหินปริมาณเกินมาตรฐานปลอดภัยเข้าไปในร่างกายปัจจุบันในประเทศยุโรปจึงมีผู้ที่ป่วยเป็นโรคเนื่องจากใยหินจำนวนมาก
โรคที่เกิดจากฝุ่นใยหินมีอยู่ทั้งหมด4 โรค2 โรคอาการไม่รุนแรงและอีก2 โรครุนแรงโรคที่1 คือโรคปอดเนื่องจากแร่ใยหินหรือแอสเบสโทซิส(asbestosis หรือfibrosis) เนื่องจากฝุ่นใยหินเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อปอดให้เป็นแผลปอดเป็นอวัยวะที่ส่งออกซิเจนจากอากาศที่สูดเข้าร่างกายเพื่อไปสู่กระแสโลหิตถ้าเป็นแผลกระบวนการนี้จะด้อยประสิทธิภาพดังนั้นผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้จะหายใจไม่สะดวกหรืออาจหายใจไม่ได้ทั้งนี้เป็นไปได้ที่ผู้ที่เสียชีวิตเนื่องจากโรคปอดอื่นๆแต่อาการอาจคล้ายกันจึงบันทึกว่าเนื่องจากโรคแอสเบสโทซิสซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องโรคที่2 คือPleural disease โรคนี้จะมีอยู่2 แบบแบบแรกคือช่องว่างในเนื้อเยื่อปอดอุดตัน(diffuse pleural thickening) ซึ่งอาจเนื่องมาจากโรคแอสเบสโทซิสและแบบที่2คือมีคราบจับอยู่ที่เนื้อเยื่อปอด(pleural plaque) ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้อาจมีแผลด้วยแต่เป็นแผลที่อยู่ภายนอกปอดหรือที่ผนังทรวงอกเป็นโรคที่ไม่เป็นอันตรายร้ายแรงเพียงอาจน่าตกใจเมื่อฉายแสงตรวจพบสำหรับโรคที่อาการร้ายมีอยู่2 โรคได้แก่มะเร็งปอดฝุ่นใยหิน(mesothelioma) ซึ่งจะเกิดที่เยื่อหุ้มปอดและมะเร็งปอดอาการคล้ายคลึงกับมะเร็งที่เกิดจากการสูบบุหรี่ความร้ายแรงของโรคนี้ถึงแม้จะรักษาอย่างเต็มที่มีโอกาสรอดชีวิตถึง5 ปีจะน้อยกว่า10%
บรรดาโรคที่เกิดจากใยหินในปัจจุบันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการใช้ใยหินอย่างมหาศาลในภาคอุตสาหกรรมต่างๆโดยขาดมาตรฐานและการควบคุมการที่ใยหินจะเป็นอันตรายหรือไม่เพียงใดจะขึ้นอยู่กับฝุ่นที่ได้รับและชนิดที่ใช้จากการศึกษาโดยใช้ระยะเวลานานกว่า60 ปีพบว่าอันตรายจะน้อยที่สุดถ้าหากใยหินที่ใช้เป็นกลุ่มส้นใยไครโซไทล์อาทิแผ่นซีเมนต์ลูกฟูกและอันตรายจะมากที่สุดถ้าหากใยหินที่ใช้เป็นกลุ่มแอมฟิโบลชนิดสีฟ้าและน้ำตาลส่วนสถานที่ที่อันตรายต่อสุขภาพมากที่สุดคือในเหมืองโรงบดแร่และโรงงานผลิตสินค้าหลากหลายผู้ที่มีความกลัวว่าผลิตภัณฑ์ใยหินทุกอย่างเป็นอันตรายน่าจะเข้าใจเสียใหม่ว่าใยหินที่เป็นอันตรายแท้จริงก็คือกลุ่มแอมฟิโบลเท่านั้นส่วนเส้นใยไครโซไทล์จะปลอดภัยเมื่อวิธีการถูกต้องการคิดหาทางทดแทนสิ่งที่ดีอยู่แล้วไม่ก่อเกิดอันตรายเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองไม่คุ้มค่า