เหตุใดผลิตภัณฑ์จาก “แร่ใยหินไครโซไทล์” จึงใช้ได้อย่างปลอดภัย

ก่อนอื่น ต้องเข้าใจก่อนว่า แร่ใยหินเป็นชื่อสามัญสำหรับแร่ซิลิเกต มีชนิดที่แตกต่างกันถึง 6 ชนิด แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 2 กลุ่ม คือ เซอร์เพนทีน (ไครโซไทล์) และ แอมฟิโบล (คลอซิโดไลท์, อะโมไซท์, แอนโธฟิลไลท์, ทรีโมไลท์, และ แอคทิโนไลท์)

แร่ใยหินชนิดไครโซไทล์มีเส้นใยที่ละเอียดอ่อน ยืดหยุ่น และแข็งแรงมาก สามารถพบได้ตามธรรมชาติเพราะเป็นชั้นหินที่อยู่บนพื้นผิวโลกของเรา สามารถละลายได้ในกรดไฮโดรคลอริก ทำให้ปลอดภัยในการนำมาใช้งานมากกว่า

แตกต่างจากแร่ใยหินแอมฟิโบลเป็นกลุ่มของไฮโดรซิลิเกตที่มีความซับซ้อนของแมกนีเซียม เหล็ก และแคลเซียม มีโครงสร้างของผลึกจับกันเป็นสายโซ่คู่ เป็นแท่งปริซึม เหมือนเข็ม ไม่มีความยืดหยุ่น ทนต่อการกัดกร่อนของกรด เมื่อมีการแตกตัวจะกลายเป็นเศษแหลม ๆ ก่อให้เกิดอันตรายแบบเฉียบพลันจึงได้มีการห้ามให้ใช้ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย ที่ตอนนี้จะใช้อยู่เพียงแค่ชนิดไครโซไทล์ที่สามรถใช้งานได้อย่างปลอดภัยเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จัดประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศ และออกคำแนะนำให้ควบคุมความเข้มข้นของไครโซไทล์ที่ไม่เกิน 1 ไฟเบอร์ต่อลบ.ซม.

บางประเทศเช่นสหรัฐอเมริกาและไทย มีกฎหมายควบคุมความเข้มข้นของปริมาณใยหินอยู่ที่ไม่เกิน 0.1 ไฟเบอร์ต่อลบ.ซม. ในสถานที่ที่คนงานต้องทำงานวันละ 8 ชั่วโมง

ซึ่งจากการทดสอบการทำงานของคนงานก่อสร้างที่ต้องมีการสัมผัสกับแร่ไครโซไทล์พบว่า ปริมาณมากที่สุดที่พบมีแค่ 0.06 ไฟเบอร์ต่อลบ.ซม. ซึ่งต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ และนับได้ว่าเป็นการทำงานอย่างปลอดภัย

นอกจากนี้ สถาบันวิจัยวิทยาศาตร์แห่งรัสเซีย สาขาทรัพยากรแร่ ได้ทำการศึกษาวิจัยและพบว่า แร่ใยหินไครโซไทล์มีองค์ประกอบทางเคมีที่สามารถละลายได้ในกรด จึงสามารถละลายได้ง่ายเมื่อเข้าไปในร่างกายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด รวมถึงมนุษย์ นอกจากนี้เส้นใยจะถูกขับออกจากร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และด้วยลักษณะเส้นใยที่เรียบ อ่อนนุ่ม และยืดหยุ่นของแร่ใยหินไครโซไทล์ ทำให้ไม่มีผลกระทบต่อภาวะที่จะทำให้ปอดได้รับการบาดเจ็บ

จากทั้งผลการวิจัยของรัสเซียที่สรุปได้ว่าเส้นใยของแร่ไครโซไทล์สามารถละลายได้ในกรด ต่อให้เล็ดรอดเข้าสู่ร่างกายก็สามารรถละลายเองได้อย่างไม่เป็นอันตราย ขณะที่ในกระบวนยการติดตั้งก็ไม่ได้ก่อให้เกิดฝุ่นที่เกิดกว่ามาตรฐาน และไม่มีฝุ่นเล็ดลอดออกมาจากผลิตภัณฑ์เมื่อนำมาใช้งาน จึงทำให้มั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์จากแร่ใยหินไครโซไทล์สามารถนำมาใช้งานได้อย่างปลอดภัย

ติดตามอ่านความรู้เรื่องแร่ไครโซไทล์ ได้ที่ https://www.facebook.com/ChrysotileThailand

Please follow and like us:

ไขข้อกังวลแร่ไครโซไทล์ มหันตภัยร้ายจริงหรือ?

ไขข้อกังวลใจเกี่ยวกับปริมาณฝุ่นที่เกิดขึ้นจากการติดตั้ง รื้อถอน กระเบื้องมุงหลังคาที่มีส่วนผสมของแร่ไครโซไทล์ รวมถึงกรณีที่กระเบื้องแตกหัก หรือมีการทุบทำลาย

แร่ไครโซไทล์เป็นอันตรายจริงหรือไม่? สามารถหาคำตอบได้ที่วิดีโอด้านล่างนี้

Please follow and like us:
Rotterdam Convention

ศูนย์ข้อมูลไครโซไทล์ ร่วมประชุมเตรียมงานระดับนานาชาติ “รอตเตอร์ดัม คอนเวนชั่น” ค้านนำแร่ใยหินไครโซไทล์เข้ากรอบสินค้าถูกควบคุม

 

เมื่อเร็วๆ นี้ ศูนย์ข้อมูลไครโซไทล์ นำโดยนายเมธี อุทโยภาส ได้มีโอกาสเดินทางเข้าร่วมกิจกรรม workshop ก่อนการประชุม Rotterdam Convention ครั้งที่ 7 เพื่อรับฟังทิศทางการกำหนดกรอบแร่ใยหินไครโซ-ไทล์ในเวทีระดับโลก พร้อมเสนอความคิดเห็น แร่ใยหินไครโซไทล์ไม่ใช่ประเภทสารเคมีอันตรายที่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของอนุสัญญา รอตเตอร์ดัม หากต้องควบคุมการใช้ ควรนำข้อเท็จจริงมาหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน ในขณะที่กรมควบคุมมลพิษย้ำ หลักฐานความเป็นอันตรายของแร่ใยหินไครโซไทล์ไม่ชัดเจนเพียงพอ ล่าสุด…ผลสรุปจากการประชุม Rotterdam Convention ครั้งที่ 7 ในที่ประชุมมีมติไม่เห็นชอบให้นำไครโซไทล์เข้าไปอยู่ในภาคผนวก 3 Rotterdam Convention เนื่องจากหลักฐานความเป็นอันตรายไม่เพียงพอ ประกอบกับผลสรุปจากการประชุมในทุกครั้งๆ ที่ผ่านมาไม่ได้รับฉันทามติ มีการคัดค้านจากประเทศภาคี อาทิ รัสเซีย คาซัคสถาน บราซิล อินเดีย และ ซิมบับเว เนื่องจากยังไม่มีสารทดแทนใดที่สามารถทดแทนในด้านคุณภาพและราคา และยังไม่มีงานวิจัยรองรับว่าสารที่นำมาทดแทนนั้นปลอดภัยต่อผู้บริโภคจริง Read More

Please follow and like us: